2555/08/28

วีรบุรุษแห่งกรีก...เพอร์ซุสผู้สังหารเมดูซา


วีรบุรุษแห่งกรีก

เพอร์ซุสผู้สังหารเมดูซา


           มาพูดถึงวีรบุรุษแห่งกรีกอีกท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ืืทรงพลกำลังเหมือนดั่งเฮอร์คิวลิสแต่กลับมีความเหมือนกันที่เป็นลูกครึ่งเทพเจ้าเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกประหลาดว่า เพอร์ซุสเป็นทวดแห่งเฮอร์คิวลิส ซึ่งจะเล่าในช่วงต่อไป หรืออาจเป็นเพราะเหตุนี้ส่วนหนึ่งจึงทำให้เฮอร์คิวลิสมีอภิพลังมหาศาลเพราะเชื้อเทพมาทัี้งสองสายทั้งฝ่ายมารดาและบิดาที่เป็นจอมเทพอยู่แล้ว ผู้คนทั้งหลายรู้จักเปอร์ซุสในนาม "เพอร์ซุสผู้สังหารเมดูซา" ซึ่งเป็นอสูรร้ายที่น่ากลัว ที่สามารถทำให้ผู้ที่สบตาของมันแล้วกลายเป็นหินไป...
        ตำนานกล่าวว่าเพอร์ซุสว่าเป็นพระโอรสแห่งเทพซีอุสกับพระชายาที่เป็นมนุษย์นามว่า "ดาเนีย" เขาเล่าว่า ท้าวอะคริสิอัสกษัตริย์แห่งเมืองอาร์กอสผู้เป็นพระราชบิดาแห่งเจ้าหญิงดาเนียทรงเข้ารับคำทำนายจากนักบวชวิหารเดลฟีว่า
  "เจ้าจะต้องตายด้วยบุตรชายแห่งธิดาเจ้า"
    หลังจากนั้นท้าวอะคริสิอัสจึงกลัวว่าพระองค์จะตายจึงป้องกันเป็นการดับไฟเสียแต่ต้นลมโดยการสร้างหอคอยที่สูงและขังเจ้าหญิงดาเนียไว้ เพื่อป้องกันเจ้าหญิงมีความสัมพันธ์กับชายอื่นจนตั้งครรภ์ แต่ไหนจะรอดพ้นจากคำทำนายเมื่อเทพซีอุสเกิดหลงรักเจ้าหญิงดาเนียและมาร่วมภิรมย์สุขสมจนเจ้าหญิงตั้งครรภ์และให้กำเนิดพระโอรส พอท้าวอะคริสิอัสทราบเท่านั้นก็จับเจ้าหญิงดาเนียใส่หีบพร้อมพระโอรสพระองค์น้อยลอยทิ้งลอยทะเลไป และแล้วหีบใบนี้ก็ลอยไปติดที่เกาะเซอริฟัส และเจ้าหญิงพร้อมพระโอรสได้รับความช่วยเหลือจากหัวหน้าชาวประมงนามว่า"ดิคทิส"ซึ่งเป็นพระเชษฐาแห่งกษัตริย์โพลิเดคทิส ดิคทิสจึงตัดสินใจส่งเจ้าหญิงพร้อมพระโอรสให้ท้าวโพลิเดคทิสอุปถัมภ์ จนพระโอรสองค์น้อยเติบโตเป็นหนุ่มรูปงาม นามว่า "เพอร์ซุส" ท้าวโพลิเดคทิสซึ่งหลงรักในเจ้าหญิงดาเนียมานานแต่มีเพอร์ซุสเป็นก้างขวางคอ พระองค์จึงจัดการเขาโดยส่งเพอร์ซุสไปตายโดยให้เพอร์ซุสไปนำหัวเมดูซามาเป็นของขวัญ เพอร์ซุสก็ยอมรับภารกิจครั้งนี้
        เพอร์ซุสออกเดินทางไปทางทิศตะวันตกซึ่งท้าวโพลิเดคทิสบอกว่า
   "ที่อยู่ของปีศาจร้ายเมดูวาอยู่สุดขอบโลกทางทิศตะวันตก..."
         เช่นนั้นเพอร์ซุสจึงต้องเดินทางไปยังทิศตะวันตกแต่ไม่ทันไรก็มีทะเลมาขว้างกั้น แต่สวรรค์ยังปราณีเทพซีอุสผู้เป็นบิดาสั่งพระเทวโองการให้เทพฮาเดส เทพีอธีน่า และเทพเฮอร์เมสช่วยเพอร์ซุสในภารกิจครั้งนี้ จากนั้นเทพเจ้าทั้ง 3 พระองค์ทรงประทานของวิเศษพระองค์ละอย่างแก่เพอร์ซุส
 - เทพฮาเดส ประทานหมวกนักรบที่มีขนนกเป็นพู่สวยงาม
 - เืทพีอธีน่า ประทานโล่
 - เทพเฮอร์เมส ประทานเกือกติดปีก
     เพอร์ซุสดีใจกับของวิเศษที่เทพเจ้าประทานมาให้ เพอร์ซุสจึงได้โอกาสถามเทพเจ้าว่าปีศาจเมดูซาอยู่ที่ใด เทพีอธีน่าจึงตอบว่า
    "พวกเราเหล่าทวยเทพมิรู้หรอก แต่มีกลุ่มเทพีกราเอีย 3 พี่น้องเท่านั้นที่รู้ว่าปีศาจเมดูซาอยู่ที่ไหน"
   "พระองค์และเทพี 3 พี่น้องกราเอียอยู่ที่ไหนล่ะพระองค์"
   "เจ้าจงใช้เกือกติดปีกแห่งข้าเหาะไปยังเกาะกลางทะเลที่นั่นคือที่อยู่ของพี่น้องเทพีกราเอีย" เทพเฮอร์เมสกล่าว
   "ขอให้เจ้าทำภารกิจนี้สำเร็จ" เทพฮาเดสกล่าว

แพนโดร่า เธอมาพร้อมกับความอยากรู้อยากเ็ห็น



แพนโดร่า

เธอมาพร้อมกับความอยากรู้อยากเห็น




       ครั้งที่แล้วได้กล่าวถึงการกำเนิดมนุษย์ว่ามนุษย์นั้นชาวกรีก เชื่อว่ามนุษย์ถูกสร้างโดยเทพเจ้านามว่า "โพรเมทิอัส" ซึ่งมนุษย์ในยุคแรกๆนั้น เป็นเพศชาย ซึ่งต่อมาเป็นผลงานที่ทวยเทพพอพระทัย เทพซีอุสได้ให้เทพโพรเมทิอัสสอนให้มนุษย์ทำการเคารพในเทพเจ้าและทำเครื่องสักการะบูชา เทพโพรเมทิอัสคิดว่าหากมนุษย์ทำการบูชาสังเวยด้วยเนื้อสัตว์ที่บริโภคได้ ถวายแด่เทพเจ้าจนหมดแล้วจะไม่มีอะไรให้มนุษย์กิน เทพโำพรเมทิอัสจึงสอนเล่ห์โกงแก่มนุษย์ โดยแบ่งวัวเป็นสองกอง กองหนึ่งเป็นโครงกระดูกและเอาไขมันปิดไว้ ส่วนกองที่สองเป็นเนื้อล้วนๆแต่เอาเครื่องในปิดไว้ เทพซีอุสหลงเทพเลือกกองที่มีโครงกระดูกเพราะคิดว่าภายใต้กองไขมันจะเป็นเนื้อวัว แต่ปรากฏว่าเป็นโครงกระดูก ซึ่งเทพซีอุสไม่พอพระทัยและพิโรธเทพโพรเมทิอัสเป็นอันมาก ไหนจะเรื่องที่ขโมยไฟสวรรค์มาอีก พระองค์จึงจับเทพโพรเมทิอัสตรึงๆไว้กับเทือกเขาคอเคซัค และลงโทษให้เหยี่ยวบินมาจิบกินตับของเทพโพรเมทิอัสทุกวัน พระองค์จะตายและฟื้นในเช้าวันใหม่ต่อไป
        เมื่อเทพซีอุสลงทัณฑ์เทพโพรเมทิอัส พระองค์ยังมาเล่นงานมนุษย์อีกด้วยข้อหาสมรู้ร่วมคิดหลอกลวงพระองค์ พระองค์จึงรวมตัวกับเหล่าเทพเจ้า สร้างมนุษย์เพศหญิงขึ้นมา นามว่า "แพนโดร่า" โดยมีเหล่าเทพเจ้าช่วยกันต่อไปนี้
   - เทพฮีฟีสทัส ปั้นรูปมนุษย์เลียนแบบเทพเจ้าเพศหญิง
   - เทพีอธีน่า ประทานพร เรื่องสติปัญญาความเฉลียวฉลาด
   - เทพีอะโฟรไดทิ ประทานเสน่ห์และความงามให้
   - เทพเฮอร์เมส ประทานชีวิต
   - เทพซีอุส ประทานความอยากรู้อยากเห็น

    เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว มนุษย์เพศหญิงคนแรกปรากฏแล้ว เทพซีอุสทรงพอพระทัย และมอบกล่องใบหนึ่งมอบแก่แพนโดร่า และย้ำว่า ห้ามเปิดกล่องใบนี้เป็นอันขาด และเทพเฮอร์เมสก็นำ แพนโดร่ามายังโลก และมอบนางให้เป็นชายาเทพเอพิเมทิอัส โดยว่าเป็นของขวัญของเทพซีอุส เทพเอพิเมทิอัสทรงรับไว้ด้วยดี ทั้งๆที่พระองค์เคยถูกเทพโพรเมทิอัสเตือนว่าห้ามรับของจากเ้ทพเจ้าเป็นอันขาด ซึ่งเทพเอพิเมทิอัสก็ทรงลืมเพราะหลงในเสน่ห์และความงามของแพนโดร่า ซึ่งทั้งสองก็ครองรักกันจนมีบุตรมากมายเป็นมนุษย์รุ่นต่อๆมาทั้งชายและหญิง และขยายลูกหลานมนุษย์ไปเรื่อยๆ 
      ในที่สุดวันที่ทวยเทพรอคอยก็มาถึง เมื่อความอยากรู้อยากเห็นในตัวแพนโดร่าเริ่มกำเริ่มรุนแรงขึ้น นางสงสัยในกล่องที่มาพร้อมกับนาง นางจึงปิดมันออกด้วยความสงสัย นางฝ่าฝืนคำสั่งแห่งเทพซีอุส นางเตะฝากล่องและปิดมันออกมา นางคิดว่าอาจจะเป็นของที่มีค่าจากสวรรค์ แต่ที่แท้กลับเป็นความหายนะและความวิบัติที่เทพเจ้าประทานมาในกล่อง ความเกลียดชัง ความโกรธ ความอาฆาตแค้น ความโลภ ความหลง โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และความตาย มันพุ่งกระจายไปทั่วและเข้าไปยังมนุษย์ทุกคน จนมนุษย์กลายเป็นคนเลว ที่ทั้งมีความโกรธ เกลียด แค้น อาฆาต และมีโรคภัยไข้เจ็บและจบด้วยความตาย.... แต่แพนโดร่ายังดีที่ปิดกล่องนั้นทัน ซึ่งเขาว่าภายในกล่องนั้นยังมีบางสิ่งที่มนุษย์ยังคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งในกล่องนั้นมีความสิ้นหวังที่ยังไม่ได้ออกมา มนุษย์เราจึงยังคงดำรงอยู่ได้เพราะความหวังที่จะดำรงชีพไปในทุกๆวันนี้....



แหล่งที่มา :http://writer.dek-d.com/chanin34/writer/viewlongc.php?id=602520&chapter=29

ซีอุส ประมุขแห่งทวยเทพโอลิมปัส



ซีอุส

ประมุขแห่งทวยเทพโอลิมปัส



      ชาวกรีกโบราณคิดว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในช่วงที่สายฝนโปรยปราย นั่นคือ เสียงฟ้าร้องฟ้าแลบ แต่กลัวถึงสุดขีดคือ สายฟ้า เพราะมันสามารถจะพุ่งฟากใส่ต้องคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ให้สิ้นม้วยมรณาได้ จึงกลายเป็นพลังเหนือธรรมชาติที่เคารพและเกรงขามของชาวกรีก ด้วยชาวกรีกโบราณเชื่อว่าพลังที่เหนือกำลังอำนาจของตนจะเป็นเทพเจ้าเป็นผู้บ่งการ จึงก่อกำเนิดเทพเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ผู้ถือสายฟ้าเป็นอาวุธยกย่องเป็นเจ้าแห่งทวยเทพทั้งปวง จะพ้นใครไปไม่ได้ก็ต้องเป็น ท่านเทพซีอุส !!!! 


               
             ชาวกรีกโบราณแต่งแต้มจากจินตนาการของตน เรื่องเล่าขานที่เกิดจากความคิดอันเป็นจินตนาการที่แสนวิเศษ
     ชาวกรีกโบราณเล่าถึงความเป็นของเทพเจ้าพระองค์นี้ไว้อย่างน่าตื่นเต้นและมีชีวิตที่มีรสชาติไม่แพ้มนุษย์ทั่วไป
     เทพซีอุส เป็นพระโอรสองค์ที่6 แห่งเทพโครนัสกับนางเรอา และพระองค์ทรงได้โค่นล้มบัลลังก์ของพระบิดาและขึ้นครองเป็นประมุขแห่งทวยเทพทั้งปวง(ตรงนี้ขอเล่าแบบง่ายๆเพราะตอนนี้เคยเล่าไปแล้วในตอนย่อยแรกๆแล้ว)

        พระองค์ทรงมีพระอัครมเหสี คือ เทพีเฮร่า ดำรงตำแหน่งราชินีแห่งสวรรค์ และมีพระโอรสพระธิดาด้วยกัน 4 พระองค์

     เทพแอรีส เทพเจ้าแห่งสงคราม



  เทพีไอไลทีเอีย

  เทพีเอรีส เทพีแห่งการแตกร้าว


 

 เทพีฮีบี

   เทพฮีฟีสทัส เทพเจ้าแห่งการช่าง

 



                  ความจริงแล้วเทพซีอุสมีชายาอีกมากมายและพระโอรสพระธิดาทั้งที่เป็นเทพและมนุษย์ (จะเล่าในโอกาสต่อไปสาธยายไม่หมดแน่) แต่พระโอรสพระธิดาใน 4 พระองค์ นี้เด่นๆเป็นที่รู้จักกันเพียง 2 พระองค์ คือ เทพแอรีส กับ เทพฮีฟีสทัส แต่เทพีเอรีสก็เป็นที่รู้จักเช่นกันในนามเทพธิดาแห่งความอิจฉาและสร้างความแตกร้าว พระองค์สร้างจุดเกิดเหตุของมหากาพย์อีเลียด หรือที่รู้จักกันในนาม สงครามทรอย พระองค์เป็นผู้ที่เป็นเจ้าของแอปเปิ้ลทองคำที่เป็นจุดเกิดของการวิวาทของ 3 เทพี คือ เทพีเฮร่า เทพีอาร์เทมิส และเทพีอธีน่า (เดี๋ยวขอไปเล่าต่อในครั้งต่อไป) คงพอจำกันได้ 
     มาเข้าเรื่องกันต่อล่ะกัน ด้วยเทพซีอุสทรงเป็นเทพเจ้าที่ทรงรักสัจจะมากและรักความเป็นธรรม ทรงรังเกลีัยดคนที่คดโกง (ระหว่างใครขี้โกงจะโดนสายฟ้าของพระองค์เอานะ) แต่นิสัยของพระองค์ที่เป็นที่เลืองลือจนสะท้านฟ้าโอลิมปัสมาแล้ว คือ ความเจ้าชู้ของพระองค์ท่าน หากไม่ใช่เพราะความเจ้าชู้ของท่านคงไม่เิกิดตำนานเทพเจ้ากรีกที่สนุกอย่างนี้หรือ พระองค์ทรงมีอัจฉริยภาพมากในการเข้าหาสตรีงาม ไำม่ว่านางจะมีเจ้าของอยู่แล้วก็ตาม (ขอหยุดเล่าเพราะจะถูกแทรกตามประวัติและตำนานของเทพเจ้าทีละองค์)